เรื่องราวของโครงการ Clear Skies

ใส่ใจในวันนี้ เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า

เซตาฟิลได้ปกป้องดูแลผิวบอบบางแพ้ง่ายมานานกว่า 70 ปี ทำให้เราทราบดีว่าสุขภาพผิวของเรานั้นสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรามุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อความยั่งยืนและเพื่อประสิทธิผลที่ดียิ่งขึ้น

โครงการ Clear Skies ของเซตาฟิลเป็นตัวกำหนดแนวทางให้เราสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมและอนาคตของทุกคนให้ดีขึ้นกว่าเดิม

เรากำลังนำแนวทางการปฏิบัติที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมมาผนวกใช้ในทุกภาคส่วนธุรกิจ โดยจะมุ่งเน้นไปยัง 4 การทำงานหลัก ได้แก่ การลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การพัฒนาสูตรที่ใช้ส่วนผสมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การใช้บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ Smart Packaging และการดูแลสังคม

โดยแนวทางกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับหลักการทางวิทยาศาสตร์นี้ ยังรวมถึงการตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ขององค์การสหประชาชาติ (United Nation's 2030 Agenda for Sustainable Development) ซึ่งรวมถึงการยกระดับให้โรงงานทั้งหมดของเราหันมาใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 100% และเปลี่ยนให้ภาคการผลิตลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Carbon Neautrality) ภายในปีค.ศ. 2022 โดยความมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเราจะเดินหน้าไปพร้อมกับโครงการ Clear Skies

การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เราตั้งเป้าหมายที่จะปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนกับที่เราปฏิบัติต่อผิวของเรา นั่นก็คือด้วยความอ่อนโยน ความเอาใจใส่ และการอยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ โดยนับตั้งแต่ปีค.ศ. 2010 เซตาฟิลและกัลเดอร์มาซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้ลงมือทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้แล้ว

- เราลดการใช้น้ำได้ถึง 33% ต่อการผลิตสินค้าหนึ่งตัน โดยการรีไซเคิลน้ำและการนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำภายในส่วนของโรงงานและภาคการวิจัย

- เราลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงงานเฉลี่ยทั้งปีได้มากกว่า 60% โดยการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน

และในปัจจุบันนี้ โรงงานของเราใช้พลังงานไฟฟ้าที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนมากถึง 95% และลดการสร้างขยะฝังกลบจนเหลือศูนย์

การปรับสูตรผลิตภัณฑ์ให้มีส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

เรากำลังปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเรา โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เพื่อการดูแลผิวบอบบางที่ทันสมัยที่สุด โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มแรกเหล่านี้จะใช้ส่วนผสมที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ* ปราศจากพาราเบน ซัลเฟต และส่วนผสมที่มาจากสัตว์ รวมถึงจะไม่มีการทำการทดลองกับสัตว์ในขั้นตอนการคิดค้น การพัฒนา และการผลิต โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้แก่ :

- เซตาฟิล เจนเทิล สกิน คลีนเซอร์

- เซตาผิล ออยลี่ สกิน คลีนเซอร์

- เซตาฟิล มอยซ์เจอไรซิ่ง โลชั่น

- เซตาฟิล แอดวานซ์ รีลีฟ โลชั่น

และส่วนที่ดีที่สุดคือแม้เราจะมีการเปลี่ยนแปลงในตัวผลิตภัณฑ์ แต่เราจะยังคงมอบประสบการณ์ที่ดีและประสิทธิผลจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้เซตาฟิลไว้วางใจและรักในผลิตภัณฑ์ของเรามาโดยตลอด

การใช้บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ Smart Packaging

เราใส่ใจในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ไม่ต่างจากที่เราใส่ใจในตัวผลิตภัณฑ์ข้างใน เซตาฟิลเลือกใช้หีบห่อและวัสดุปิดหีบห่อที่ทำมาจากวัสดุประเภทเดียวกันซึ่งสามารถนำไปรีไซเคิลได้บางส่วน ทำให้บรรจุภัณฑ์เหล่านี้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ที่โรงงานรีไซเคิลทั่วไป และยิ่งไปกว่านั้น ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของเราใช้หีบห่อและวัสดุปิดหีบห่อที่แยกชิ้นส่วนได้ ช่วยให้ง่ายต่อการคัดแยกขยะ นอกจากนี้ตัวบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากกระดาษก็ยังผลิตมาจากวัสดุหมุนเวียนที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ

การดูแลเอาใจใส่ชุมชนของเรา

เราภาคภูมิใจที่ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ Camp Wonder มาเป็นระยะเวลานาน โดย Camp Wonder เป็นค่ายฤดูร้อนสำหรับเด็กที่เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังและอันตรายต่อชีวิต ก่อตั้งโดยมูลนิธิ Children’s Skin Disease Foundation โดยในแต่ละปี พนักงานของเราและบุคคลากรด้านสาธารณสุขที่เป็นพันธมิตรกับเรา จะตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเข้าไปเป็นอาสาสมัครที่ค่ายแห่งนี้ ค่ายซึ่งเด็ก ๆ จะไม่ถูกตัดสินจากโรคที่พวกเขาเป็น แต่จะได้ใช้ชีวิตกับการเป็นเด็กให้เต็มที่ โดยกัลเดอร์มาและเซตาฟิลได้ร่วมกันบริจาคเงินเป็นจำนวน 1.5 ล้านดอลลาร์และมอบผลิตภัณฑ์มากกว่า 50,000 รายการมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2012 และในขณะที่โครงการ Clear Skies ของเราก็กำลังเดินหน้าต่อไป เซตาฟิลจะไม่หยุดความพยายามในการแสวงหาองค์กรอื่น ๆ จากทั่วทุกมุมโลกนอกเหนือจาก Camp Wonder เพื่อเดินหน้าในพันธกิจเพื่อการดูแลผิวบอบบางแพ้ง่ายต่อไป