ประเทศไทย ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่แดดแรงไม่แพ้ใคร ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูหนาว อุณหภูมิพุ่งสูงอยู่เสมอและบ่อยครั้งเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผิวไหม้ ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นเหตุของผิวอ่อนแอ จนบอบบาง แพ้ง่าย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาผิวอีกหลากหลายประการ และในช่วงฤดูหนาวยิ่งมีโอกาสเป็นไปได้มากที่ผิวที่ถูกแดดเผาจนไหม้ อาจยิ่งแห้ง จนลอก เป็นขุย
ผิวไหม้แดด (Sunburn) เป็นผลมาจากการสัมผัสรังสี UV จากแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานเกินไปโดยไม่มีการปกป้องเพียงพอ ก่อให้เกิดอาการเหล่านี้
ผิวหรือหน้าไหม้แดด ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความมั่นใจเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมอันตรายในระยะยาว ได้แก่
กรณีมีอาการเล็กน้อย เช่น ผิวแห้งแดง คัน ผิวลอกเล็กน้อย สามารถฟื้นฟูได้เองภายใน 3-7 วัน แต่หากมีอาการรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นตุ่มน้ำพอง รู้สึกปวดมาก หรืออาการอื่น ๆ อย่างเวียนหัว คลื่นไส้ และอาเจียน ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
การฟื้นฟูผิวที่ได้รับความเสียหายจากแสงแดดให้กลับมาสุขภาพดี ต้องอาศัยการดูแลอย่างถูกวิธี โดยทำเองได้ง่าย ๆ 5 วิธีดังนี้
ผิวไหม้แดดมักสูญเสียความชุ่มชื้นและความสมดุลอย่างมาก การใช้ครีมบำรุงมอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่เกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวที่กำลังอ่อนแอ กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
หากผิวของคุณมีอาการแห้ง ลอก แดง คัน เป็นขุย หรือมีความผิดปกติใด ๆ ต้องหลีกเลี่ยงการลอกหรือแกะ เพราะการทำเช่นนั้นอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือทำให้อาการแย่ลง ควรทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและปล่อยให้ผิวฟื้นฟูตามธรรมชาติจะปลอดภัยที่สุด
การดื่มน้ำมาก ๆ เป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายใน ฟื้นฟูสมดุลและลดอาการผิวแห้งลอก ช่วยให้ผิวกลับมาสดใสและลดอาการอักเสบได้เป็นอย่างดี
หากรู้สึกแสบร้อนที่ผิว สามารถประคบเย็นด้วยผ้าชุบน้ำเย็น หรือการอาบน้ำเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้ และควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เพราะอาจทำให้อาการไหม้แดดแย่ลง หรือการปลอบประโลมอาการแสบร้อนของผิวด้วย การทามอยส์เจอไรเซอร์ ประเภทโลชั่นหรือครีมก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวที่กำลังอ่อนแอได้เช่นกัน
สุดท้าย หากคุณยังมีอาการผิวแดง แห้ง ลอก เป็นขุย จากการไหม้แดดอยู่ การสัมผัสแสงแดดเพิ่มเติมจะยิ่งทำให้ผิวฟื้นตัวยากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจนกว่าอาการจะดีขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอ บอบบาง จากการถูกทำร้ายซ้ำอีก
สำหรับใครที่ประสบปัญหารูขุมขนกว้าง แล้วไม่รู้ว่าควรใช้อะไรหรือทำอย่างไรดี และไม่อยากทำเลเซอร์ นี่คือ 5 วิธีดูแลปัญหารูขุมขนกว้างอย่างมีประสิทธิภาพที่เรารวบรวมมาฝากกัน
การทำความสะอาดผิวหน้า เป็นวิธีที่สำคัญที่สุดในการกระชับรูขุมขน เพราะจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรก ความมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งอาจอุดตันรูขุมขนได้อย่างหมดจด ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนและรูขุมขนกระชับมากขึ้น
ลำดับถัดไป คือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติไม่ก่อให้เกิดปัญหารูขุมขนกว้างและอุดตัน หากไม่รู้ว่าจะใช้อะไรดี สามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์ Non-Comedogenic และเป็นผลิตภัณฑ์ Oil Free เพื่อช่วยลดรูขุมขนอุดตันในระยะยาว
การปกป้องผิวจากรังสี UV จะช่วยรักษาคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิว ป้องกันรูขุมขนขยายตัวและเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ โดยควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF เกิน 30 ขึ้นไป เพื่อประสิทธิภาพการป้องกันสูงสุด
การใช้กระดาษซับมัน เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวิธีดูแลผิวที่ง่าย สะดวก และสามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา
สุดท้าย แนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตซีบัมมากเกินไป ส่งผลให้รูขุมขนกว้างขึ้นนั่นเอง
เมื่อการทำความสะอาดผิวหน้าคือตัวช่วยสำคัญในการกระชับรูขุมขน จึงต้องใส่ใจกับการเลือกเจลล้างหน้ามากเป็นพิเศษ เซตาฟิลจึงมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ช่วยควบคุมความมัน อันเป็นสาเหตุหลักของรูขุมขนกว้างและผิวอุดตันมาแนะนำ
แสงแดดทำร้ายผิวได้มากกว่าที่คิด อย่ารอให้ผิวไหม้จนยากจะฟื้นฟู เริ่มต้นป้องกันตัวเองจากรังสี UV ตั้งแต่วันนี้ ด้วย 4 วิธีที่คุณเองก็ทำได้
ปลอบประโลมผิวที่ถูกแสงแดดทำร้ายด้วยหลากหลายผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์จากเซตาฟิล และนี่คือ 4 ไอเทมดูแลผิวหน้าที่จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวของคุณกลับมาสุขภาพดีอย่างปลอดภัย
เซตาฟิล เดย์ลี่ เฟเชียล คลีนเซอร์ - เจลล้างหน้าของคนผิวมัน หรือผิวแพ้ง่ายเนื้อ Gel-Foaming ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกพร้อมขจัดสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และความมันส่วนเกินโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ลดความมันส่วนเกินได้ถึง 29%*ทันทีหลังใช้ล้างหน้า 93% ของผู้ใช้จริงยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ช่วยกำจัดความมันส่วนเกินหลังจากใช้ไป 28 วัน* และ 95% ของผู้ใช้จริงรู้สึกว่ารูขุมขนเล็กลง* สูตรนี้ไม่มีน้ำหอม ผิวบอบบางแพ้ง่ายแค่ไหนก็เอาอยู่
เซตาฟิล ไฮเดรติ้ง โฟมมิ่ง ครีม คลีนเซอร์ - ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าเนื้อ Foaming Cream ทำความสะอาดได้หมดจดโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ชั่วโมง** พร้อมช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เหมาะกับทุกสภาพผิว
เซตาฟิล มอยเจอร์ไรซิ่ง โลชั่น - โลชั่นสำหรับผิวธรรมดา-ผิวแห้ง รวมถึงผิวบอบบางแพ้ง่าย ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นทันทีหลังใช้ บางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวที่อ่อนแอให้แข็งแรงภายใน 7 วัน*** รักษาความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้นานถึง 48 ชั่วโมง***
เซตาฟิล มอยเจอร์ไรซิ่ง ครีม - ครีมบำรุงเนื้อเข้มข้น ดูแลผิวให้กลับมาเนียนนุ่มและคงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน 48 ชั่วโมง ซึมไว ไม่อุดตันผิว และช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวอย่างสมบูรณ์ในเวลาเพียง 1 สัปดาห์**** เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
เติมความชุ่มชื้นให้ผิวแข็งแรงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวหน้า และผิวตัว จากเซตาฟิล มีให้เลือกหลากหลายสูตร ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกสภาพผิว ปลอบประโลมผิวจากการโดนแสงแดดทำร้ายด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ใช้ได้อย่างปลอดภัยแม้จะมีผิวอ่อนแอจนบอบบางและแพ้ง่าย หาซื้อผลิตภัณฑ์เซตาฟิลได้ที่ Shopee, Lazada ศูนย์การค้า และร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ
*จากการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ Cetaphil Daily Facial Cleanser อย่างต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ ในอาสาสมัครจำนวน 43 ราย ต.ค. ถึง ธ.ค. 2563 โดย I.E.C. ประเทศบัลแกเรีย
**จากการประเมินค่าการสูญเสียน้ำจากผิวหนัง (Trans Epidermal Water Loss) ก่อนและหลังการใช้ Cetaphil Hydrating Foaming Cream Cleanser ในอาสาสมัครจำนวน 20 ราย ต.ค. 2564 โดย I.E.C. ประเทศบัลแกเรีย
***จากการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ Cetaphil Moisturising Lotion เป็นเวลา 14 วัน ในอาสาสมัครจำนวน 30 ราย ธ.ค. 2563 ถึง ม.ค. 2564 โดย BioScreen Clinical Services ประเทศสหรัฐอเมริกา
****จากการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ Cetaphil Moisturising Cream อย่างต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ ในอาสาสมัครจำนวน 32 ราย ก.ค. 2563 โดย I.E.C. ประเทศฝรั่งเศส
ข้อมูลอ้างอิง: