null

คู่มือเลือกสกินแคร์ผิวแห้ง บำรุงถูกหลัก กลับมาชุ่มชื้นได้

ผิวแห้ง เป็นภาวะที่คนจำนวนมากต้องเผชิญ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวของแต่ละบุคคล สภาพอากาศ มลภาวะ โรคประจำตัว หรือปัจจัยอื่น ๆ นอกจากจะทำให้ผิวดูแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น และดูแก่กว่าวัยแล้ว ยังมาพร้อมอาการไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เช่น อาการคัน ผิวลอก ผิวแดง การเข้าใจวิธีดูแลผิวแห้ง รวมทั้งแนวทางการเลือกสกินแคร์ผิวแห้งจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เหล่าคนผิวแห้งต้องรู้

ผู้หญิงมีปัญหาผิวและกำลังหาวิธีดูแลผิวแห้ง

7 วิธีดูแลผิวแห้งให้ชุ่มชื้น สุขภาพดีอยู่เสมอ

ผิวแห้ง เป็นภาวะที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการตึง ลอก คัน หรืออาจเกิดรอยแตกบนผิวได้ง่าย หากปล่อยให้ผิวแห้งเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ เช่น ริ้วรอยก่อนวัย ผื่นคัน หรือภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรังได้ หากคุณกำลังประสบปัญหาผิวแห้ง นี่คือ 7 วิธีดูแลผิวแห้งให้กลับมาชุ่มชื้น สุขภาพดีอย่างปลอดภัยและยั่งยืน


1. เลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว

สกินแคร์ผิวแห้งควรมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นและช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวเป็นหลัก โดยส่วนผสมที่ควรมองหา ได้แก่

  • Ceramides ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
  • Hyaluronic Acid ช่วยกักเก็บน้ำในชั้นผิว
  • Glycerin ช่วยให้ความชุ่มชื้นและลดการสูญเสียน้ำ

ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารกันเสีย เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและรู้สึกไม่สบายผิวมากยิ่งขึ้น


2. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ

วิธีถัดมา คือการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยปริมาณที่เหมาะสม คือ 8-10 แก้วในวันปกติ และเพิ่มปริมาณในวันที่อากาศแห้ง การดื่มน้ำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายใน ทำให้เซลล์ผิวอุ้มน้ำได้ดีขึ้น และลดปัญหาผิวแห้งแตกได้


3. ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

รังสี UV ในแสงแดดคือตัวการในการทำลายเกราะป้องกันผิวและลดระดับความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวแห้งและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป ปกป้องได้ทั้งรังสี UVA และ UVB และหากต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง


4. อาบน้ำให้ถูกวิธี หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนและการขัดผิวรุนแรง

รู้หรือไม่ว่าการอาบน้ำก็เป็นวิธีดูแลผิวแห้งวิธีหนึ่งเช่นกัน โดยไม่ควรอาบน้ำร้อนเกิน 37 องศาเซลเซียส ใช้สบู่สูตรอ่อนโยน ปราศจากสาร SLS และไม่อาบน้ำนานเกินไป เพื่อป้องกันผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการใช้ใยขัดตัวหรือแปรงขัดผิว เพราะอาจทำให้ผิวแห้งลอกได้


นอกจากนี้ หลังอาบน้ำควรซับผิวเบา ๆ แล้วรีบทามอยส์เจอไรเซอร์ภายใน 3 นาที เพื่อให้ผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


5. หากผิวแห้งจนรู้สึกคัน ห้ามเกาโดยเด็ดขาด

อาการคันเป็นสัญญาณว่าผิวแห้งมาก หากเกาจะยิ่งทำให้เกิดแผลและอักเสบได้ แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้เจลเย็นประคบผิว หรือทามอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ เชียบัตเตอร์ และ สวีท อัลมอนด์ ออยล์ Sweet Almond Oil เพื่อปลอบประโลมผิวแทน


6. รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น

อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยได้ คือการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน โอเมกา 3 และสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เสริมสร้างคอลลาเจนและลดการสูญเสียน้ำ รวมถึงฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน


7. เลือกเสื้อผ้าที่นุ่มสบาย และใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่อ่อนโยนต่อผิว

สุดท้าย หากมีปัญหาผิวแห้ง แนะนำให้สวมเสื้อผ้าที่เนื้อผ้านุ่ม ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย หลีกเลี่ยงผ้าขนสัตว์ และเลือกใช้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีที่ก่อให้เกิดความไม่สบายผิว

ผู้หญิงกำลังทาสกินแคร์เพื่อบำรุงหน้าแห้ง

รวมสกินแคร์ผิวแห้ง ฟื้นฟูผิวได้เห็นผล

ผิวแห้ง คือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ดังนั้น การเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสมจึงเป็นหัวใจสำคัญ หากอยากมีผิวเนียนนุ่ม สุขภาพดี นี่คือ 3 สกินแคร์ดูแลผิวกายและบำรุงหน้าแห้งให้กลับมาชุ่มชื้นได้อย่างเห็นผล


1. มอยส์เจอไรเซอร์

มอยส์เจอไรเซอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง เพราะช่วยเพิ่มและรักษาความชุ่มชื้นในผิว รวมถึงป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น มีให้เลือกใช้ทั้งในรูปของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผิวกาย


2. โทนเนอร์

สำหรับคนผิวแห้ง โทนเนอร์ไม่ได้มีหน้าที่แค่ช่วยทำความสะอาดผิว แต่ยังช่วยเตรียมผิวหน้าให้พร้อมรับการบำรุงจากสกินแคร์ในขั้นตอนถัดไป ลดอาการแห้งตึงหลังล้างหน้าและเสริมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ


3. แผ่นมาสก์

แผ่นมาสก์ เป็นตัวช่วยบำรุงผิวแบบเร่งด่วนที่เหมาะสำหรับคนผิวแห้งอย่างยิ่ง เพราะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเข้มข้นในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและลดปัญหาผิวแห้งลอกได้ทันทีหลังใช้


แนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแห้งอย่างอ่อนโยนจากเซตาฟิล

สำหรับผู้ที่กำลังมีคำถามว่าผิวแห้ง หน้าแห้งใช้อะไรดี เซตาฟิลได้คิดค้นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ผิวแห้งสูตรอ่อนโยนให้เลือกใช้อย่างครอบคลุม เพื่อฟื้นฟูผิวให้กลับมาเนียนนุ่มได้โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้บนผิว

เซตาฟิล มอยส์เจอไรซิ่ง โลชั่น

โลชั่นผิวชุ่มชื้นสูตรซึบซาบไวและบางเบา ให้ความชุ่มชื้นทันทีหลังใช้ ฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรงภายใน 7 วัน* 94% ของผู้ใช้รู้สึกว่าผิวกลับมาชุ่มชื้นขึ้นทันทีหลังใช้** อ่อนโยนต่อผิวบอบบางและแพ้ง่าย

เซตาฟิล มอยซ์เจอไรซิ่ง ครีม

ครีมบำรุงเนื้อครีมเข้มข้น บำรุงผิวให้กลับมาเนียนนุ่มและกักเก็บน้ำไว้ในผิวได้ยาวนาน 48 ชั่วโมง ฟื้นฟูความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวอย่างสมบูรณ์ในเวลาเพียง 1 สัปดาห์*** ฟื้นคืนเกราะป้องกันผิวให้กลับมาแข็งแรงใน 3-7 วันหลังใช้****


เอาชนะผิวแห้ง ดูแลให้ผิวหน้าและผิวกายกลับมาชุ่มชื้น เนียนนุ่ม แลดูสุขภาพดี ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงทำตาม 7 เคล็ดลับที่เรานำมาฝากกัน พร้อมเสริมด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวแห้งจากเซตาฟิล แบรนด์เวชสำอางเพื่อผิวหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังในหลายประเทศทั่วโลกแนะนำ ใช้ได้อย่างปลอดภัยแม้ในกลุ่มผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย หาซื้อผลิตภัณฑ์เซตาฟิลได้ที่ Shopee, Lazada ศูนย์การค้า และร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ


*จากการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ Cetaphil Moisturising Lotion เป็นเวลา 14 วัน ในอาสาสมัครจำนวน 30 ราย ธ.ค. 2563 ถึง ม.ค. 2564 โดย BioScreen Clinical Services ประเทศสหรัฐอเมริกา


**จากการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ Cetaphil Moisturising Lotion อย่างต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ ในอาสาสมัครจำนวน 36 ราย ต.ค. ถึง ธ.ค. 2563 โดย Allergisa ประเทศบราซิล


***จากการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ Cetaphil Moisturising Cream อย่างต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ ในอาสาสมัครจำนวน 32 ราย ก.ค. 2563 โดย I.E.C. ประเทศฝรั่งเศส


****จากการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ Cetaphil Moisturising Cream เป็นเวลา 14 วัน ในอาสาสมัครจำนวน 50 ราย ก.ค. ถึง ส.ค. 2560 โดย Biometrix, Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกา



ข้อมูลอ้างอิง: 

  1. ผิวแห้ง ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้นดูแลอย่างไร. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/seborrheic-dermatitis
  2. 9 ways to banish dry skin. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/9-ways-to-banish-dry-skin
  3. Dermatologists' top tips for relieving dry skin. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://www.aad.org/public/everyday-care/skin-care-basics/dry/dermatologists-tips-relieve-dry-skin
null