สุขภาพผิวดี ด้วยขั้นตอนการทาสกินแคร์แบบถูกหลัก

การทาสกินแคร์เป็นหนึ่งในขั้นตอนการบำรุงผิวที่ได้รับการรับรองโดยแพทย์ผิวหนัง และสิ่งหนึ่งที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของสกินแคร์โดยตรงก็คือ วิธีเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิวและขั้นตอนการทาสกินแคร์

วิธีเลือกสกินแคร์สำหรับผิวหน้า 3 ประเภท

ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการลงสกินแคร์อย่างถูกต้อง หากต้องการดูแลผิวอย่างเห็นผลและมีประสิทธิภาพ สิ่งแรกที่ควรทำ คือการเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิวก่อน โดยสภาพผิวหน้าของเรา โดยทั่วไปจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ผิวแห้ง ผิวมัน และผิวผสม ซึ่งสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวแต่ละประเภท มีดังต่อไปนี้

1. ผิวแห้ง

ผิวแห้ง หมายถึงผิวที่มีลักษณะแห้งตึงและขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมาน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวไม่สามารถเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ จึงแห้ง แตก และอาจรุนแรงถึงขั้นลอกเป็นขุย ร่วมกับมีอาการคันได้ ดังนั้น การเลือกสกินแคร์สำหรับคนผิวแห้ง จะเน้นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นหลัก ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ใช้ออยล์บำรุงผิวหน้าและมาสก์หน้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น แลดูสุขภาพดีขึ้น

2. ผิวมัน

ผิวมัน เป็นผิวที่มีความมันส่วนเกินเยอะ ซึ่งผู้ที่มีปัญหาผิวมันก็แบ่งเป็นหลายระดับ ตั้งแต่คนที่ผิวหน้าดูมันวาว ไปจนถึงผิวมันเยิ้มจนสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจน ส่งผลให้แต่งหน้ายาก เครื่องสำอางหลุดระหว่างวัน เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากผิดปกติ นอกจากนี้ คนผิวมันยังมักมีปัญหารูขุมขนกว้างเพื่อระบายน้ำมันออกจากผิว จึงเสี่ยงเป็นสิวได้ง่ายเป็นพิเศษ ควรเลือกสกินแคร์ที่มีเนื้อบางเบา เพื่อป้องกันรูขุมขนอุดตันและช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า แต่ก็ต้องไม่ลืมให้ความชุ่มชื้นกับผิวด้วยเช่นกัน

3. ผิวผสม

คนที่มีผิวผสม คือคนที่มีทั้งผิวแห้งและผิวมันในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง หรือสัดส่วนที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่มักมีผิวมันบริเวณ T-Zone ได้แก่ หน้าผาก จมูก คาง และผิวแห้งบริเวณแก้มทั้งสองข้าง ส่วนที่เป็นผิวมันมักเป็นสิวง่าย ในขณะที่ส่วนที่เป็นผิวแห้งจะค่อนข้างตึงและหยาบกร้าน จึงดูแลยากกว่าผิวประเภทอื่น แนะนำให้ใช้สกินแคร์สูตรอ่อนโยน ป้องกันรูขุมขนเกิดการอุดตัน เน้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นหลัก

วิธีลงสกินแคร์ตามสภาพผิวในตอนเช้าและตอนเย็น

มีสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิวแล้ว ต่อไปก็มาถึงขั้นตอนการทาสกินแคร์อย่างถูกวิธีกันบ้าง ซึ่งในการทาสกินแคร์ ก็มีหลักการง่าย ๆ คือเรียงลำดับจากสกินแคร์ที่เนื้อสัมผัสที่เบาบางที่สุด ไล่ไปจนถึงเนื้อครีมข้น เนื้อโลชั่น และเนื้อออยล์ โดยผิวแต่ละประเภทก็มีขั้นตอนการลงสกินแคร์ที่แตกต่างกันไป ดังนี้

1. ผิวแห้ง

เริ่มต้นจากการล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้า เพื่อล็อกความชุ่มชื้นไว้ในผิว แล้วใช้โทนเนอร์ปรับสมดุลกรดด่าง จากนั้นบำรุงผิวด้วยเอสเซนส์และมอยส์เจอไรเซอร์แบบครีม ปิดท้ายด้วยครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด

ส่วนในช่วงเย็น สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิงออยล์ให้หมดจด ตามด้วยสกินแคร์เฉพาะจุด อย่างอายครีม ครีมแต้มสิว แล้วจึงทาเซรั่มเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และใช้ Sleeping Mask ตบท้ายก่อนเข้านอน

2. ผิวมัน

ขั้นตอนการลงสกินแคร์สำหรับคนผิวมัน จะเริ่มที่การใช้โฟมล้างหน้า ตามด้วยโทนเนอร์ที่ช่วยลดความมัน ตามด้วยเอสเซนส์สำหรับบำรุงผิว และมอยส์เจอไรเซอร์ในรูปแบบอิมัลชันที่ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ ตามด้วยครีมกันแดดเนื้อบางเบา เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ

สำหรับตอนเย็น แนะนำให้คนผิวมันใช้คลีนซิงแบบไม่มีน้ำมันเพื่อทำความสะอาดผิว จากนั้นจึงใช้สกินแคร์เฉพาะจุด น้ำตบ และ Mask Sheet เพื่อให้ผิวหน้าเนียนนุ่มอยู่เสมอ

3. ผิวผสม

ปิดท้ายขั้นตอนการทาสกินแคร์ด้วยผิวผสม ซึ่งค่อนข้างซับซ้อนมากเป็นพิเศษ เพราะมีทั้งผิวมันและผิวแห้ง เริ่มวันด้วยการใช้โฟมล้างหน้าขจัดความมันส่วนเกิน แล้วใช้โทนเนอร์ที่ช่วยคุมความมันสำหรับผิวบริเวณ T-Zone ตามด้วยเอสเซนส์เนื้อบางเบา อิมิลชันเพิ่มความชุ่มชื้น และครีมกันแดดที่ค่า SPF เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์

ส่วนในช่วงเย็น ควรใช้คลีนซิงที่ไม่ทำให้ผิวแห้งเกินไป แล้วทำความสะอาดด้วยเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ต่อจากนั้นจึงใช้อายครีมและครีมแต้มสิว สุดท้ายคือการใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อย่างยาวนาน

เพราะที่เซตาฟิล เราเข้าใจทุกสภาพผิวและยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสกินแคร์เพื่อทุกคนอย่างไม่หยุดนิ่ง จึงมีสกินแคร์และมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อผิวผสม ให้เลือกอย่างครอบคลุม และสำหรับใครที่อยากดูแลผิวผสมอย่างตรงจุด เราขอแนะนำ 2 ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแข็งแรงยาวนาน ได้แก่

เซตาฟิล ไฮเดรติ้ง โฟมมิ่ง ครีม คลีนเซอร์

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเนื้อ Foaming Cream ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยนด้วยฟองโฟมเนื้อนุ่ม บำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ชั่วโมง* เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

เซตาฟิล ไบรท์ เฮลธ์ตี้ เรเดียนซ์ ไบรท์เทนนิ่ง ไนท์ คอมฟอร์ท ครีม

ครีมบำรุงผิวหน้า ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน โดยไม่ก่อให้เกิดความไม่สบายผิว พร้อม Gentle Bright Technology ช่วยลดเลือนจุดด่างดำสะสม ปรับสีผิวให้กระจ่างใสและดูสม่ำเสมอ เห็นผลใน 4 สัปดาห์**

ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ของเซตาฟิล ได้รับการรับรองโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง สามารถใช้ได้อย่างมั่นใจแม้จะเป็นคนผิวบอบบางและแพ้ง่าย หาซื้อได้ที่ Shopee, Lazada ศูนย์การค้าและร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ

ข้อมูลอ้างอิง:

ผิวแห้ง ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้นดูแลอย่างไร. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 จาก https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/seborrheic-dermatitis
ผิวผสม รู้จักลักษณะของผิวและการดูแลให้ผิวสวย. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 จาก https://www.pobpad.com/ผิวผสม-รู้จักลักษณะของผ

*จากการประเมินค่าการสูญเสียน้ำจากผิวหนัง (Trans Epidermal Water Loss) ก่อนและหลังการใช้ Cetaphil Hydrating Foaming Cream Cleanser ในอาสาสมัครจำนวน 20 ราย ต.ค. 2564 โดย I.E.C. ประเทศบัลแกเรีย

**จากการศึกษาทางคลินิกในอาสาสมัครผู้หญิงชาวเอเชียโดย IEC ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างเดือน ก.พ. ถึง มิ.ย. 2563 จำนวน 44 ราย สำหรับผลิตภัณฑ์เซตาฟิล ไบรท์ เฮลธ์ตี้ เรเดียนซ์ ไบรท์เทนนิ่ง ไนท์ คอมฟอร์ท ครีม