ในชีวิตประจำวัน ผิวของเราต้องเผชิญกับมลภาวะทางอากาศ ฝุ่นควัน แสงแดด และสารเคมีจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เราใช้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางหรือครีมบำรุง ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวได้อย่างมาก หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ปัญหาผิวได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะมาช่วยให้ผิวของเราสามารถรับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้ คือ “เกราะป้องกันผิว” หรือ Skin Barrier
เพื่อให้การดูแลและการสร้าง Skin Barrier เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า Skin Barrier คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และมีเคล็ดลับในการดูแลผิวอย่างไรให้แข็งแรง เพื่อให้ผิวของคุณมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว
เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) คือ ชั้นผิวหนังส่วนนอกสุด ประกอบด้วยเซลล์ผิวและไขมันธรรมชาติที่เชื่อมต่อกันเป็นโครงสร้างคล้ายกำแพงอิฐ ทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการปกป้องผิวจากสิ่งรบกวนภายนอก ช่วยรักษาความชุ่มชื้นไว้ภายในผิว ลดการสูญเสียน้ำ รวมถึงควบคุมการอักเสบ และป้องกันการระคายเคือง เมื่อเกราะป้องกันผิวแข็งแรง ผิวจะสามารถรักษาสมดุลได้อย่างดีและป้องกันปัญหาผิวต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากเกราะป้องกันผิวอ่อนแอ เช่น จากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงเกินไปหรือการสะสมของมลภาวะ อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและเปิดโอกาสให้สิ่งสกปรกเข้าสู่ผิว ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวในด้านต่าง ๆ ตามมาได้
เกราะป้องกันผิวช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำในชั้นผิว โดยช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวหนัง ส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่น ซึ่งความชุ่มชื้นที่เหมาะสมยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผิว ลดความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยและปัญหาผิวอื่น ๆ นอกจากนี้การมีผิวที่ชุ่มชื้นสมดุลยังช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งและสุขภาพดีในระยะยาว
เกราะป้องกันผิวยังมีบทบาทในการป้องกันผิวจากมลภาวะ เชื้อโรค และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ โดยทำหน้าที่เป็นกำแพงกั้นไม่ให้สารอันตรายแทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิวลึกได้ง่าย ลดโอกาสการติดเชื้อ การระคายเคือง และปฏิกิริยาการแพ้ พร้อมเสริมความแข็งแรงของผิวในการป้องกันตัวเองจากมลภาวะ หรือสารเคมีชนิดต่าง ๆ ที่อาจเจอในชีวิตประจำวัน
เกราะป้องกันผิวยังช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและยืดหยุ่น โดยไขมันธรรมชาติในโครงสร้างของเกราะป้องกันผิวมีบทบาทสำคัญในการกักเก็บความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำ เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นสมดุล จะช่วยให้เซลล์ผิวเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ ส่งผลให้ผิวสัมผัสเนียนนุ่ม และยังคงความยืดหยุ่นไว้ได้ดี
หากเกราะป้องกันผิวแข็งแรง จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาผิวด้านต่าง ๆ ได้ เช่น การเกิดสิว ผื่นแพ้ ผิวแห้ง และอาการคัน ทำให้ผิวแลดูสุขภาพดีและช่วยลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเสริมสร้าง Skin Barrier ควรเริ่มจากการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำลายผิว เช่น การแกะหรือบีบสิว และการขัดผิวรุนแรง พร้อมดูแลผิวจากภายในโดยพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้ว และรับประทานอาหารที่ดีต่อผิว เช่น อาหารที่มีโอเมก้า 3 วิตามิน C และ E นอกจากนี้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เช่น คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน หรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีเซราไมด์เป็นส่วนผสม
การป้องกันแสงแดดเป็นวิธีสำคัญในการเสริมเกราะป้องกันผิว ควรเริ่มจากการทาครีมกันแดดทุกวัน แม้จะอยู่ในร่ม โดยเลือกครีมที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปและป้องกันรังสี UVA และ UVB พร้อมทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง พร้อมเพิ่มการป้องกันด้วยหมวกหรือแว่นกันแดด รวมถึงหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วง 10.00-16.00 น. เพื่อป้องกันรังสี UV ที่รุนแรง ที่สำคัญหลังเผชิญแสงแดดควรฟื้นฟูผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปลอบประโลม เช่น กรดไฮยาลูโรนิก เพื่อลดความเสียหายต่อผิวและทำให้ Skin Barrier แข็งแรงในระยะยาว
การทำความสะอาดผิวที่ถูกต้องเป็นพื้นฐานสำคัญในการดูแล Skin Barrier ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีค่า pH ใกล้เคียงผิว (4.5-6.5) เพื่อรักษาสมดุลและไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และหลีกเลี่ยงสารทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของ SLS หรือแอลกอฮอล์ ขณะล้างหน้าควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติและนวดเบา ๆ หลีกเลี่ยงการขัดถูแรงที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง
การบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เป็นขั้นตอนสำคัญในการเสริมสร้าง Skin Barrier ให้แข็งแรง ควรทาครีมบำรุงทันทีหลังล้างหน้า เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Ceramides หรือ Hyaluronic Acid ซึ่งช่วยฟื้นฟูเกราะผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำทุกวันจะช่วยให้ผิวแข็งแรงในระยะยาว
เซตาฟิล มอยส์เจอไรซิ่ง โลชั่น (Cetaphil Moisturizing Lotion) เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อผิวแห้งและบอบบางโดยเฉพาะ ด้วยสูตรอ่อนโยนที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic) และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นยาวนานผ่านส่วนผสมสำคัญอย่างกลีเซอรีน, น้ำมันอะโวคาโด (Avocado Oil) และวิตามินหลากชนิด เนื้อโลชั่นบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและลำตัว ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแล้วว่า
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกราะป้องกันผิวอ่อนแอ ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น ผิวไม่เรียบเนียน แพ้ง่าย หรือรู้สึกตึงไม่สบายผิว ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กลับมาชุ่มชื้นและสุขภาพดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
*จากการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ Cetaphil Moisturising Lotion เป็นเวลา 14 วัน ในอาสาสมัครจำนวน 30 ราย ธ.ค. 2563 ถึง ม.ค. 2564 โดย BioScreen Clinical Services ประเทศสหรัฐอเมริกา
**จากการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ Cetaphil Moisturising Lotion อย่างต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ ในอาสาสมัครจำนวน 36 ราย ต.ค. ถึง ธ.ค. 2563 โดย Allergisa ประเทศบราซิล
เซตาฟิล มอยซ์เจอไรซิ่ง ครีม (Cetaphil Moisturizing Cream) เป็นครีมบำรุงผิวที่ช่วยบำรุงผิวแห้งและผิวบอบบาง โดยมีสูตรเข้มข้นช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวให้เนียนนุ่มยาวนาน ด้วยส่วนผสมสำคัญอย่าง Sweet Almond Oil, วิตามินบี 3 โปร, วิตามินบี 5 และกลีเซอรีน ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี เนื้อครีมมีความหนึบแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเร็ว
เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการการบำรุงพิเศษ เช่น ผิวแห้งกร้านหรือรู้สึกไม่สบายผิว ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวและทำให้ผิวกลับมานุ่มชุ่มชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ
**จากการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ Cetaphil Moisturising Cream เป็นเวลา 14 วัน ในอาสาสมัครจำนวน 50 ราย ก.ค. ถึง ส.ค. 2560 โดย Biometrix, Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกา
***จากการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ Cetaphil Moisturising Cream ทาผิวครั้งเดียว ในอาสาสมัครจำนวน 50 ราย พ.ย. 2560 โดย Biometrix, Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกา
การดูแล Skin Barrier อย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผิวแข็งแรง สุขภาพดี และลดปัญหาผิวต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มต้นดูแลตั้งแต่วันนี้ เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ครีมทาหน้าสำหรับผิวแห้ง แพ้ง่าย จากเซตาฟิล แบรนด์เวชสำอางเพื่อผิวหน้า ที่ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากสถาบันชั้นนำระดับสากล หาซื้อได้สะดวกทางออนไลน์ ห้างสรรพสินค้า ร้านขายยา และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ